การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในระบบโซล่า รูฟท็อป
Blockchain คือรูปแบบการเก็บข้อมูล (Database) แบบหนึ่งของระบบที่ไม่มีศูนย์กลางแต่เชื่อถือได้และโกงยาก ซึ่งหากพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ Blockchain คือการให้ทุกคนถือเอกสารชุดเดียวกัน เมื่อมีการอัปเดตก็จะอัปเดตด้วยกัน โดยมั่นใจได้ว่าเอกสารเหล่านั้นเชื่อถือได้แน่นอนไม่มีการปลอมแปลง ผู้ซื้อไฟจากการไฟฟ้าสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองจากระบบโซล่าเซลล์และสามารถขายให้กับเพื่อนบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเราเรียกว่า Prosumer
Prosumer หมายถึง ผลิตโดยผู้บริโภค หรือ Production by Consumer นั่นคือการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองจากหลังคาบ้านตนเองด้วยแผงโซลาร์เซลล์ สามารถจำหน่ายให้กับบ้านข้างเคียงผ่านระบบสายส่งของการไฟฟ้าได้เมื่อเปิดเสรี โดยบทบาทของผู้ใช้ไฟฟ้า (ผู้บริโภค) จะเปลี่ยนไปเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
การเตรียมปรับเปลี่ยนผู้ใช้ไฟฟ้ามาเป็นผู้จำหน่าย หรือจาก Consumer to Prosumer ในระบบ Blockchain นับเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศเพื่อรองรับเทคโนโลยีทางเลือกใหม่ของผู้ใช้ไฟฟ้าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ทางเลือกที่จะทำให้ระบบไฟฟ้ามีความยืดหยุ่นรองรับ Prosumer มีประเด็นสำคัญ 5 ด้าน
1) สัญญาการซื้อขายพลังงาน ต้องปรับเงื่อนไขสัญญาการซื้อเชื้อเพลิงระยะยาวและเงื่อนไขสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชนให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
2) โครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายไฟฟ้า มีการปรับปรุงความสามารถในการส่งจ่ายไฟฟ้าของระบบส่ง / ระบบจำหน่าย และระบบป้องกันให้มีความเหมาะสม
3) การผลิตไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าในเวลาที่รวดเร็วขึ้นและลดการเดินเครื่องได้ที่ค่าต่ำกว่าเดิม
4) การบริหารจัดการด้านผู้ใช้ไฟฟ้า มีการปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ไฟฟ้า
5) การกักเก็บพลังงาน ที่จะต้องกักเก็บพลังงานในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยและจ่ายไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง รวมถึงสามารถตอบสนองความผันผวนได้อย่างรวดเร็ว